เรื่องเล่าที่เดินทางข้ามกาลเวลาสู่เทศกาลแห่งความสุขทั่วโลก
วันคริสต์มาส (Christmas Day) ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ผู้คนทั่วโลกรอคอยมากที่สุดของปี ไม่ว่าจะเป็นชาวคริสต์หรือไม่ก็ตาม เพราะนี่คือช่วงเวลาแห่งความสุข การให้ของขวัญ การรวมตัวของครอบครัว และบรรยากาศสุดอบอุ่นที่ปกคลุมไปทั่วเมืองต่างๆ โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยการตกแต่งไฟสวยงาม ร้านค้าและถนนที่ถูกประดับประดาให้มีสีสันสดใสราวกับโลกในนิทาน
แต่เคยสงสัยไหมว่า… แท้จริงแล้ววันคริสต์มาสเริ่มต้นขึ้นเมื่อใด? และซานตาครอสที่เด็กๆ รอคอยมีที่มาอย่างไร?
วันนี้เราจะพาทุกคนย้อนเวลาไปค้นหาประวัติที่ทั้งน่าสนใจและเต็มไปด้วยเสน่ห์ของเทศกาลนี้
ประวัติวันคริสต์มาส: จากพิธีศาสนาสู่เทศกาลระดับโลก
แม้ว่าปัจจุบันวันคริสต์มาสจะกลายเป็นเทศกาลสากล แต่ต้นกำเนิดของวันสำคัญนี้เริ่มขึ้นในฐานะวันที่ชาวคริสต์เฉลิมฉลองการประสูติของพระเยซูคริสต์ (Jesus Christ) ผู้เป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์
จุดกำเนิดในประวัติศาสตร์
วันคริสต์มาสถูกกำหนดให้ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม โดยเชื่อว่าเป็นวันที่พระเยซูประสูติ แม้ในอดีตจะยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด
นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าคริสตจักรยุคแรกเลือกวันที่นี้เพื่อสอดคล้องกับ เทศกาลฤดูหนาวของโรมัน ที่ชื่อ Saturnalia ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองความอุดมสมบูรณ์ ความรุ่งเรือง และความสว่างของดวงอาทิตย์
เมื่อเวลาผ่านไป การเฉลิมฉลองลักษณะนี้ถูกผสานเข้ากับความเชื่อของศาสนาคริสต์ จนกลายเป็นวันคริสต์มาสที่รู้จักในปัจจุบัน
พิธีกรรมและการเฉลิมฉลอง
การเฉลิมฉลองคริสต์มาสจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่สิ่งที่พบเห็นมากที่สุดได้แก่
การประดับ ต้นคริสต์มาส
การมอบ ของขวัญ
การรวมตัวของครอบครัว
การร้องเพลงคริสต์มาส (Carols)
การเข้าร่วมพิธีทางศาสนาในโบสถ์
แม้ว่าจะมีรากฐานเป็นพิธีศาสนา แต่เทศกาลนี้ก็ถูกถ่ายทอดไปสู่วัฒนธรรมร่วมสมัย จนกลายเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขสำหรับผู้คนทั่วโลก
ต้นกำเนิดของซานตาครอส: จากนักบุญผู้ใจดีสู่สัญลักษณ์ของการให้
ถ้าพูดถึงคริสต์มาส สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องนึกถึงคือ ซานตาครอส ชายชราผมขาวในชุดแดงผู้แบกกระสอบของขวัญไว้บนหลัง ซานตาครอสมีต้นกำเนิดจากบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ นั่นคือ นักบุญนิโคลัส (Saint Nicholas)
เรื่องราวของนักบุญนิโคลัส
นักบุญนิโคลัสเป็นบิชอปชาวตุรกีเมื่อประมาณ ค.ศ. 300
ท่านมีชื่อเสียงเรื่องความเมตตาและการช่วยเหลือผู้ยากไร้
เรื่องเล่าที่โด่งดังคือตำนานที่ท่านแอบนำถุงทองไปวางให้เด็กสาวยากจนในยามค่ำคืน เพื่อช่วยให้เธอได้แต่งงานและมีชีวิตที่ดีขึ้น
ผู้คนจึงจดจำท่านในฐานะสัญลักษณ์ของ ความเมตตา การให้ และความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว
ซานตาครอสในยุคปัจจุบันเกิดขึ้นเมื่อใด
ภาพของซานตาครอสเริ่มชัดเจนขึ้นในศตวรรษที่ 19
นิยายและบทกวีอย่าง “A Visit from St. Nicholas” หรือ “Twas the Night Before Christmas” ได้ทำให้ภาพของชายร่างท้วมใจดีนั่งบนเลื่อนพร้อมกวางเรนเดียร์โด่งดัง
ภาพลักษณ์ที่เราเห็นในวันนี้ เช่น ชุดแดง หมวกขนฟู และหนวดยาวสีขาว ได้ถูกเผยแพร่สู่ระดับโลกโดยโฆษณาในยุคศตวรรษที่ 20
ซานตาครอสจึงไม่ได้เป็นเพียงตัวละครในนิทาน แต่เป็นสัญลักษณ์ของความสุข การแบ่งปัน และความหวังที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
ทำไมวันคริสต์มาสจึงดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก?
สำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว วันคริสต์มาสคือช่วงเวลาทองในหลายประเทศ เพราะ
เมืองใหญ่ทั่วโลกจะประดับไฟและจัดตลาดคริสต์มาส (Christmas Market)
ร้านค้าต่างๆ มักมีโปรโมชั่นช่วงเทศกาล
เป็นฤดูกาลของการเดินทางตามครอบครัว
ในหลายประเทศยังเป็นช่วงฤดูหนาว นักท่องเที่ยวจึงได้สัมผัสบรรยากาศหิมะสุดโรแมนติกอีกด้วย
จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมวันคริสต์มาสถึงกลายเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดสำหรับการเดินทาง